"วินัยจราจร สะท้อนวินัยชาติ"
คำกล่าวนี้แสดงอะไร อะไร ได้มากมาย
เมื่อผู้คนในประเทศชาติ มักง่าย ไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย
"แม้ขนาดแค่วินัยจราจรยังฝ่าฝืนกันเลย แล้วอย่างอื่นจะเหลืออะไรละครับ"
" สัญญาณยกเลี้ยวสีเหลืองอำพัน " !!!
"เมื่อจะเลี้ยวรถ เปลี่ยนช่องเดินรถ หรือแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น
เปลี่ยนช่องเดินรถ หรือแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น
การให้สัญญาณด้วยมือและแขนของผู้ขับขี่
1. เมื่อจะลดความเร็วของรถให้ผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกรถเสมอระดับไหล่ และโบกมือขึ้นลงหลายครั้ง
2. เมื่อจะหยุดรถ ให้ผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาออกไปนอกรถเสมอระดับไหล่ยกแขนขวาท่อนล่างตั้งฉากกับแขนท่อนบน และตั้งฝ่ามือขึ้น
3. เมื่อจะให้รถคันอื่นผ่านหรือแซงขึ้นหน้า ให้ผู้ขับขี่แขนขวาตรงออกไปนอกรถเสมอระดับไหล่ และโบกมือไปทางข้างหน้าหลายครั้ง
4. เมื่อจะเลี้ยวขวา หรือเปลี่ยนช่องเดินรถไปทางขวา ให้ผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกรถเสมอระดับไหล่
5. เมื่อจะเลี้ยวซ้าย หรือเปลี่ยนช่องเดินรถไปทางซ้าย ให้ผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกรถเสมอระดับไหล่ และงอข้อมือชูขึ้นโบกไปทางซ้ายหลายครั้งการใช้สัญญาณมือของผู้ขับขี่ ในกรณีที่ต้องการจะเลี้ยวรถจะต้องปฏิบัติ
1.สัญญาณมือ
- เลี้ยวขวา ให้ผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาตรงออกไปเสมอไหล่
- เลี้ยวซ้าย ให้ผู้ขับขี่ยื่นแขนขวาตรงออกไปนอกรถเสมอไหล่และงอมือชูขึ้นโบกไปทางซ้าย หลายครั้ง
การใช้เสียงสัญญาณของรถผู้ขับขี่ต้องใช้เสียงสัญญาณ
ใช้เสียงแตรที่ได้ยินในระยะไม่น้อยกว่า 60 เมตร ห้ามใช้เสียงสัญญาณไซเรน เสียงสัญญาณที่เป็นเสียงนกหวีด เสียงที่แตกพร่า เสียงหลายเสียงหรือเสียงสัญญาณอย่างอื่น ตามที่อธิบดีกำหนด และให้ผู้ขับขี่ใช้เสียงสัญญาณได้เฉพาะจำเป็น หรือป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น และห้ามใช้เสียงยาว หรือซ้ำเกินควรแก่ความจำเป็น
ผู้ขับขี่จะต้องใช้ไฟแสงสว่าง (ไฟหน้าและไฟท้าย) เมื่อ
ในเวลาที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอที่จะมองเห็นคน รถ หรือสิ่งกีดขวางในทางได้โดยชัดแจ้งภายในระยะไม่น้อยกว่า 150 เมตร
เวลาขับรถออกต่างจังหวัด สังเกตุได้ว่ารถบรรทุกมักชอบส่งสัญญาณไฟกระพริบหลายจังหวะ
ซั่งแม้ว่าสัญญาณไฟเหล่านี้จะไม่ถือเป็นสากล แต่ก็เป็นที่นิยมตามเส้นทางต่างจังหวัดของเมืองไทย
หากเราเรียนรู้ไว้ก็ไม่เสียหลาย
กรณีเราเป็นฝ่ายขับตาม ให้สังเกตุไฟท้ายรถบรรทุกดังนี้
- เปิดไฟเลี้ยวซ้ายที-ขวาที คือสัญญาณว่า "ให้ระวัง" เขาอาจจะเบรก ข้างหน้าอาจจะมีด่าน มีอุบัติเหตุ
หรือรถข้างหน้าเขาเกิดเบรกกระทันหัน ให้เราขับตามไปเรี่อยๆ อย่าแซงเป็นอันขาด
- เปิดไฟฉุกเฉิน หากอยู่ใกล้ทางแยก เป็นสัญญาณว่า "ฉันกำลังจะตรงไป" หากเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉิน
หลังจากที่เปิดไฟเลี้ยวซ้ายที-ขวาทีสลับกัน เป็นสัญญาณว่า "ฉันกำลังจะหยุดรถ"
- เปืดไฟเลี้ยวซ้ายอย่างเดียว กรณีที่รถเราวิ่งตามอยู่และเขาไม่ได้แอบซ้ายเข้าจอด เป็นสัญญาณว่า "เชิญ
แซงขึ้นไปได้เลย" หากถนนที่วิ่งเป็นเลนสวน แสดงว่า "ข้างหน้าไม่มีรถสวนแซงได้ไม่ต้องกลัว"
- เปิดไฟเลี้ยวขวา อาจเปิดค้างไว้ หรือเปิดเป็นจังหวะ กรณีรถเราวิ่งตามอยู่เป็นสัญญาณว่า "ฉันไม่ให้แซง
ฉันกำลังจะแซงรถคันหน้า หรือฉันกำลังจะเลี้ยวขวา" หากเป็นเลนสวน เป็นสัญญาณว่า "กำลังมีรถสวนมา
อย่าเพิ่งแซง" ให้รอจนกว่าเขาจะแซงไปหรือจนกว่าเขาจะเปิดไฟเลี้ยวซ้าย
สำหรับการขับรถตามกันนี้ เมื่อเรากำลังแซงขึ้นไปจะพ้นเขาอาจส่งสัญญาณตามมาอีก 2 จังหวะ คือ
1) จังหวะที่เรากำลังแซงตีคู่กันกับเขา หากเป็นตอนกลางคืน เขาอาจจะเปิดไฟสูงให้เราเห็นทางข้างหน้า
และลดไฟลงต่ำเมื่อเราแซงพ้น หรือบางคันอาจปิดไฟหน้าเป็นสัญญาณว่า "คุณแซงพ้นแล้ว ให้เข้ามา
ในเลนได้" แต่หากเป็นตอนกลางวันเขาอาจจะกระพริบไฟ 1 ครั้ง หรือบีบแตรสั้นๆ 1 ครั้ง
2) เมื่อเราแซงขึ้นไปในระดับเดียวกับเขา เราอาจจะบีบแตรสั้นๆ 1 ครั้งเป็นการขอบคุณ ซึ่งเขาเองก็จะ
บีบตอบกลับมา 1 ครั้งเช่นกัน
กรณีเราขับสวนกัน ให้สังเกตุไฟหน้าของรถบรรทุก ดังนี้
- ดับไฟหน้าแล้วเปิด เป็นสัญญาณว่าทางข้างหน้าเราที่เขาเพิ่งขับผ่านมานั้น "มีด่านหรือมีอุบัติเหตุร้ายแรง
ให้ระวัง"
- กระพริบไฟหน้า บางทีอาจเป็นแค่การทักทาย หรือเช็คว่าเราหลับในหรือเปล่า หรือเป็นการถามว่า
ทางที่เราผ่านมามีด่านหรือไม่ หากทุกอย่างเรียบร้อยดีให้กระพริบไฟตอบไป 1 ครั้ง
- กระพริบไฟหน้าและเปิดไฟเลี้ยวมาทางเรา เป้นสัญญาณว่า "มีด่านอยู่ฝั่งเราข้างหน้า"
- กระพริบไฟหน้าและเปิดไฟเลี้ยวไปทางเขา เป็นสัญญาณว่า "มีด่านอยู่ฝั่งเขาข้างหน้า"
กรณีที่เขาขับมาเป็นขบวน ให้สังเกตุรถลำดับที่ 2 ในแถวไว้ให้ดี หากรถคันที่ 2 หรือคันต่อไปในแถว
ที่สวนมากระพริบไฟ หรืออาจเบี่ยงหัวออกมานิดหนึ่ง แล้วกระพริบไฟ เป็นสัญญาณว่า "รถคันแรกในขบวน
ขับช้า ฉันจะแซงออกมาแล้วนะ" เราเองต้องชะลอความเร็วและระวังให้มาก เพราะส่วนใหญ่เมื่อเขากระพริบ
ไฟเสร็จเขาจะหักหัวออกมาทันที.
